Amazon ตั้งเป้าหมายในการจัดส่งทุกอย่างให้ได้ภายใน 30 นาที โดยมี "หุ่นยนต์" เป็นทางออก

Amazon กำลังสูญเสียเงินหลายพันล้านดอลลาร์ เพื่อทำการเร่งความเร็วในการส่งของให้กับลูกค้า ปีนี้มีการใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าขนส่งมากกว่า 35 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นจำนวนสองเท่าของที่ใช้ไปในสองปีก่อน

   เร็วๆ นี้ Amazon ได้ออกมาบอกว่าช่วงเทศกาลวันหยุดปลายปีนี้จะต้องทุ่มเงินอีก 1.5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อใช้ในการขนส่งแบบ หนึ่งวันให้กับสมาชิกคนพิเศษ จึงไม่น่าแปลกใจนักที่พบว่า ปีนี้กำไรของบริษัทหดหายไป ส่วนทางออกของเรื่องนี้ทาง Amazon ก็ได้มีการเตรียมเอาไว้แล้ว
ผู้บริหารฝ่ายบริการลูกค้าของ Amazon กล่าวว่า เมื่อเรามีจำนวนฝูงบินโดรนและหุ่นยนต์เพียงพอ การส่งของภายใน 30 นาทีก็ไม่ใช่เรื่องยาก ดังนั้นทางออกของเรื่องนี้คือการลงทุนไปกับเทคโนโลยีหุ่นยนต์ ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์ที่ใช้จัดของในคลังสินค้า รถขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ใช้ขนสินค้า และหุ่นยนต์ส่งของถึงประตูบ้าน ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ช่วยลดต้นทุนของการส่งของ เพราะหุ่นยนต์จะทำให้การส่งของเร็วขึ้น ประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้น และมีชั่วโมงการทำงานที่มากขึ้น

     Amazon เริ่มเรื่องนี้มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ในปี 2012 Amazon เข้าซื้อหุ่นยนต์จากบริษัทชื่อ Kiva ในราคา 775 ล้านดอลลาร์ และในปี 2014 ก็มีหุ่นยนต์ถึง 15,000 ตัว โดยมีการออกแบบหุ่นยนต์อีกถึง 4 ครั้งหลังจากซื้อหุ่นยนต์มาจาก Kiva และหุ่นยนต์ตัวล่าสุดมีขนาดเล็ก ลงหลายนิ้ว ทำให้เพิ่มความเร็วในกำรจัดส่งถึงมือลูกค้า แถมทำให้โกดังจุผลิตภัณฑ์ได้มากขึ้น และ ณ วันนี้บริษัทมีฝูงหุ่นยนต์ Kiva จำนวน 200,000 ตัว วิ่งในศูนย์ปฏิบัติงานเต็มไปหมด และกำลังทำการทดสอบหุ่นยนต์ที่จะทำการส่งของบนทางเท้า และมีการลงทุนในเรื่อง ของยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยตนเอง และแน่นอนว่า Amazon ยังต้องการกำลังจากหุ่นยนต์อีกมาก เพื่อให้ส่งได้เร็วกว่าคู่แข่ง
ทั้งหมดนี้เป็นแผนของ Amazon ที่เตรียมเอาไว้รองรับความต้องการของลูกค้า ที่ใจร้อนอยากได้ของที่สั่งเร็วขึ้นเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้การส่งของจะเร็วแบบ 1 วันถึง ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า และก้าวต่อไปของ Amazon ต้องเร็วกว่าเดิม

Share on facebook
Share